แบล็คแจ็ค หนึ่งในเกมไพ่ที่นิยมเล่นในคาสิโน โดยนิยมเป็นอันดับต้น ๆ ของนักเสี่ยงโชคต่าง ๆ ด้วยความที่เล่นง่าย และสนุก ไม่ซับซ้อน ไพ่แบล็คแจ็คเป็นอีกหนึ่งเกมที่มีไม่เพียงแต่ที่จะอาศัยดวงในการเอาชนะ แต่ยังต้องอาศัยทั้งไหวพริบ และ ทักษะการ วางเดิมพัน ในการคำนวณ แบล็คแจ็คออนไลน์ อีกด้วย
แบล็คแจ็ค คืออะไร?
เกมไพ่แบล็คแจ็ค Blackjack ถูกเรียกอีกหนึ่งชื่อว่าเกมไพ่ 21 แต้ม เพราะวิธีการเล่นจะเป็นการรวมไพ่ให้ได้ 21 แต้มจึงจะถือว่าชนะเดิมพันและสามารถกินเงินได้ทั้งโต๊ะ สำหรับประวัติของไพ่แบล็คแจ็คนั้นไม่ได้ปรากฏขึ้นอย่างชัดเจนว่ามีที่มาที่ไปเป็นแบบใด แต่มีหลักฐานว่ามาจากประเทศฝรั่งเศส เพราะวิธีการเล่นไพ่ไปปรากฏอยู่บนรูปภาพของศิลปินท่านหนึ่งที่มีการวาดผู้คนในฝรั่งเศสนั่งเล่นไพ่ที่ภายในมือมีแต้ม 21 แต้ม แต่ในขณะเดียวกันไพ่แบล็คแจ็คก็มีลักษณะของการเล่นที่ไปคล้ายคลึงกับไพ่ของอิตาลี ซึ่งไพ่ชนิดนี้จะเป็นการวัดผลกันเมื่อไพ่ในมือมี 7.5 แต้ม และไปคล้ายกับเกมไพ่ของสเปนที่ถูกเรียกว่าไพ่ 31 แต้มด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะคล้ายหรือมีลักษณะการเล่นที่เหมือนกับไพ่ของประเทศใดก็ตาม แต่มีสิ่งหนึ่งที่กติกาจะเหมือนกันคือการกำหนดแต้มขึ้นมาอย่างชัดเจนและมักจะลงท้ายด้วยแต้ม 1 ไม่ว่าจะ 21 หรือ 31 ถ้าเกินไปกว่านี้ถือว่าแพ้แต่ถ้าตรงตามแต้มจะถือว่าชนะขาดทันที
กติกาการเล่นไพ่แบล็คแจ็ค
– ผู้เล่นทุกคนวางเงินเดิมพันลงในช่องสี่เหลี่ยมด้านหน้าของตัวท่านเอง
– เจ้ามือแจกไพ่ให้กับผู้เล่นคนละใบก่อนจากนั้นแจกให้ตัวเอง โดยผู้เล่นจะได้ไพ่คนละ 2 ใบ ส่วนเจ้ามือได้ 1ใบหรือหงาย 1 ใบ คว่ำ 1 ใบ (ไพ่ของผู้เล่นต้องหงายเสมอ)
– หากไพ่ทั้ง 2 ใบของผู้เล่นรวมแล้วแต้มบนไพ่ยังห่างไกลจาก 21 มาก สามารถเรียกไพ่ได้ไม่จำกัดจำนวน แต่หากแต้มบนไพ่เกิน 21 แพ้ทันที (เรียกไพ่ได้ทีละคนตามลำดับ เจ้ามือเรียกไพ่เป็นคนสุดท้าย)
– กฎของไพ่แบล็กแจ็ก เจ้ามือจะเรียกไพ่ให้ถึง 17 แต้มเป็นอย่างต่ำ ถ้าผู้เล่นได้แต้มต่ำกว่า 16 ลงมาถือว่าแพ้เจ้ามือ
– หากผู้เล่นพอใจที่แต้ม 16 สามารถหยุดได้ รอลุ้นให้เจ้ามือได้แต้มเกิน 21 ผู้เล่นก็จะเป็นฝ่ายชนะ
วิธีเล่น แบล็คแจ็คออนไลน์
วิธีการเล่นแบล็คแจ็คออนไลน์ ทั้งบนมือถือ และเดสก์ท็อป หลังจากที่เลือกห้องคาสิโนสดแลว ผู้เล่นจะต้องทำการวางเดิมพันขั้นต่ำ ส่วนใหญ่จะไม่ต่ำกว่า 100 บาท ในช่องวงกลมด้านหน้าเก้าอี้ที่เราเลือกนั่ง หรือเลือกเดิมพัน side bet ก็ได้ด้วยเช่นกัน
จากนั้นเจ้ามือจะทำการแจกไพ่ให้ผู้เล่นคนละ 2 ใบ แบบเปิดหน้าไพ่ทั้ง 2 ใบ และเจ้ามือจะแจกไพ่ให้ตัวเอง 2 ใบ แต่เปิดหน้าไพ่แค่ใบแรกเท่านั้น เสร็จแล้วผู้เล่นจะได้รับสิทธิตัดสินใจ ว่าจะเลือกเดิมพันรูปใดบ้าง ตามนี้..
- Hit: ขอไพ่เพิ่มทีละ 1 ใบ และผู้เล่นจะขอได้เรื่อยๆ จนกว่าจะ Busted หรือพอใจ
- Stand: ไม่ต้องการรับไพ่เพิ่ม (พอใจกับแต้มที่ได้แล้ว)
- Double Down: ใช้สิทธิจั่วไพ่เพิ่มได้อีก 1 ใบเท่านั้น พร้อมลงเงินเดิมพันเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า
- Split: ใช้ได้ในกรณีที่ผู้เล่นได้ไพ่คู่กัน สามารถเลือก Split เพื่อแยกคู่เป็น 2 มือ และใช้สิทธิ Hit สำหรับเรียกไพ่ที่แยกออกมาได้
- Surrender: ใช้ได้ตอนแจกไพ่ 2 ใบแรกเสร็จแล้ว (โดยดีลเลอร์เปิดไพ่ 1 ใบ) เป็นการหมอบ และได้เงินเดิมพันคืนเป็น 1/2 หรือครึ่งเดียวนั่นเอง
- Insurance: หลังแจกไพ่ 2 ใบแรกเสร็จ หากไพ่ใบที่ 1 ของดีลเลอร์เป็น Ace ผู้เล่นจะมีสิทธิเลือกว่าจะ ทำ/ไม่ทำ ถ้าเลือก ‘ทำ’ จะต้องลงเงินเดิมพันเพิ่มอีก ครึ่งเท่า ถ้าดีลเลอร์ได้ 21 blackjack ผู้เล่นจะได้เงินที่ทำประกันไว้เป็น 2 เท่า แต่ถ้าไม่ blackjack 21 ก็เสียเงิน Insurance ไปทันที
การนับแต้มของไพ่แบล็คแจ็ค
A มีแต้มเท่ากับ 1 หรือ 11 ขึ้นอยู่กับกติกา
2-9 มีแต้มเท่ากับเลขบนหน้าไพ่
10 J Q K มีแต้มเท่ากับ 10
อัตราการจ่ายเงินเดิมพันสำหรับแบล็คเเจ็คออนไลน์
- ถ้าชนะด้วยแต้มปกติ อัตราการจ่ายเงินที่ 1:1
- ถ้าชนะด้วยแบล็คแจ็ค(ได้ 21 แต้ม) อัตราการจ่ายเงินที่ 3:2
- หลักประกัน คือ ถ้าเจ้ามือมีไพ่ A (Ace ใบที่หงายใบแรก) ผู้เล่นสามารถที่จะทำประกันได้ด้วยการวางเงินเดิมพันอีกเท่าตัว เมื่อเปิดไพ่เจ้ามือเป็นแบล็คแจ็ค ก็จะได้รับเงินรางวัลที่มีอัตราการจ่ายเงินที่ 2:1 แต่ถ้าไม่ได้แบล็คแจ็ค(21 แต้ม) ต้องเสียเงินที่ประกันไว้ทั้งหมด
แบล็คแจ็คเป็นเกมคาสิโนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเกมหนึ่งโดยมีผู้เล่นมากมายทั่วโลกที่ชื่นชอบเกมนี้ เพราะพวกเขาเชื่อว่านี่เป็นหนึ่งในเกมคาสิโนที่จะสามารถเอาชนะได้ง่ายและรวดเร็ว แบล็คแจ็คออนไลน์เป็นเกมไพ่ที่ยิ่งเล่นก็จะยิ่งรู้สึกสนุก โดยเฉพาะถ้ารู้จักศึกษาเทคนิค หรือสูตรการเล่นแบล็คแจ็ค ที่เว็บ casinoclubbet มีเกมแบล็คแจ็คพร้อมให้บริการทุกท่านตลอด 24 ชั่วโมง